แมกนีเซียม ซิเตรท NOW Foods Magnesium Citrate 120 Veg Capsules
แมกนีเซียม ซิเตรท Magnesium Citrate ขนาดบรรจุ 120 แคปซูล(Veggie Caps)
ขนาดการรับประทาน ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง พร้อมอาหาร
ผลิตโดยบริษัท Now Foods สหรัฐอเมริกา
หมดอายุ : 01/2029
ส่วนประกอบสำคัญใน 1 หน่วยบริโภค(3 แคปซูล) ประกอบด้วย
* แมกนีเซียม Magnesium (from Magnesium Citrate) 400 มก.
แมกนีเซียม ซิเตรท (Magnesium Citrate) เป็นรูปของแมกนีเซียมที่ผสมกับกรดซิตริก จึงมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ ด้วย แก้ปัญหาท้องผูกได้ จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาท้องผูกหรือริดสีดวง เป็นรูปของแมกซีเซียมที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายอีกชนิด
แมกนีเซียม มีความสำคัญต่อระบบเผาผลาญและการสร้างกำลังให้กับร่างกาย การหดคลายกล้ามเนื้อ การส่งกระแสประสาท และการสะสมแร่ธาตุของกระดูก (bone mineralization) เป็นโคแฟคเตอร์ของเอนไซม์ (Enzyme cofactor) กว่า 300 ชนิด ผลที่ได้จากการกระตุ้นด้วยเอนไซม์เหล่านี้ เช่น การสังเคราะห์กรดไขมัน การสังเคราะห์โปรตีน และการเผาผลาญกลูโคสไปเป็นพลังงาน นอกจากนี้แมกนีเซียมยังสำคัญต่อการสร้างสมดุลของระบบแคลเซียมในร่างกาย ซึ่งมีความสำคัญต่อต่อมพาราไทรอยด์(Parathyroid gland) หากมีฮอร์โมนชนิดนี้น้อยเกินไปจะทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ การดูดซึมแคลเซียมกลับที่ไตลดน้อยลง จะทำให้ระบบประสาท และกล้ามเนื้อไวต่อสิ่งเร้า มีอาการชาตามมือเท้า กล้ามเนื้อหดรัดตัว เกร็ง เป็นตะคริวที่มือและเท้า มีอาการชักกระตุก(tetany)บริเวณหน้า ปอดไม่ทำงาน
ความสำคัญของแร่ธาตุ แมกนีเซียม (Magnesium)
* แมกนีเซียม ซิเตรท (Magnesium Citrate) มีคุณสมบัติเป็นยาระบายอย่างอ่อน
* มีความจำเป็นต่อกระบวนการดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินไปใช้ เช่น แคลเซียม วิตามินซี ฟอสฟอรัส โซเดียม และโพแทสเซียม
* เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ ในร่างกาย
* มีความจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
* มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน แก้อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
* เป็นแร่ธาตุที่ช่วยคลายความเครียด
* คนที่ดื่มสุราเป็นประจำมักขาดแร่ธาตุชนิดนี้
* ผู้ใหญ่ต้องการแร่ธาตุแมกนีเซียมประมาณ 200-500 มิลลิกรัม ทุกวัน
* สำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร สถาบันวิจัยแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาแนะนำ ให้รับประทานแร่ธาตุแมกนีเซียม ขนาด 300 – 355 มิลลิกรัม
* ร่างกายของคนเรามีแร่ธาตุแมกนีเซียมอยู่ประมาณ 21 กรัม
หน้าที่และประโยชน์ของ แมกนีเซียม (Magnesium)
* ช่วยเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนเป็นพลังงาน
* ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจวาย (Congestive Heart failure)
* ช่วยลดความรุนแรงของอาการเจ็บหน้าอก เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Angina pain)
* ลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต(Kidney Stones) โดยแมกนีเซียม จะช่วยละลายแคลเซียมส่วนเกินและจะถูกขับออกไปกับปัสสาวะ จึงไม่เกิดการก่อตัวของแคลเซียม เป็นก้อนนิ่วในไต
* ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ(Cardiac arrhythmia) แก้อาการใจสั่น(Palpitation) เป็นอาการที่รู้สึกได้ถึงการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ มักเต้นเร็วขึ้น และอาจมีจังหวะการเต้นที่ผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ
* เป็นองค์ประกอบของกระดูกและฟัน ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
* ช่วยป้องกันการสะสมของแคลเซียม ป้องกันการเกินนิ่วในไต และนิ่วในถุงน้ำดี
* บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย เกี่ยวข้องกับขบวนการเผาผลาญที่จำเป็นหลายขบวนการ ซึ่งส่วนมากแมกนีเซียมจะอยู่ในเซลล์และจะไปกระตุ้นน้ำย่อย โดยเป็น co-factor ของน้ำย่อยหลายชนิดซึ่งจำเป็นสำหรับการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต และกรดอะมิโนให้เป็นพลังงาน
* เกี่ยวข้องกับการคลายตัว (Relaxation) ของกล้ามเนื้อช่วยส่งเสริมการดูดซึม และการเผาผลาญของแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม และโพแทสเซียม
* ช่วยให้นอนหลับอย่างสงบเป็นธรรมชาติตลอดคืน ไม่ตื่นกลางคัน
* รักษาอาการขาอยู่ไม่สุข หรือโรคRLS (Restless legs syndrome) อาการนอนไม่หลับจนต้องลุกขึ้นมาเดิน พอง่วงไปนอนก็นอนไม่หลักอีก
* เมื่อรวมกับแคลเซียม จะทำงานคล้ายเป็นยาระงับประสาทจากธรรมชาติ ช่วยให้รู้สึกสงบ สำหรับแคลเซียมและแมกนีเซียม แร่ธาตุทั้ง 2 ตัวจะช่วยในการทำงานของระบบประสาท ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อ การขาดแร่ธาตุนี้จะทำให้เกิดตะคริวและรบกวนการทำงานของเส้นประสาท มีผลทำให้นอนไม่หลับ นอกจากนี้การขาดธาตุเหล็กและทองแดงจะทำให้หลับช้า นอนนาน และอาจตื่นกลางดึก
* ช่วยร่างกายในการใช้วิตามินบีรวม วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งจำเป็นสำหรับการส่งสัญญาณประสาท( nerve impulse) และ ป้องกันกล้ามเนื้อหดเกร็ง
* เพิ่มการหลั่งอินซูลิน โดยปกติพบว่าผู้ป่วยเบาหวานจะมีระดับของแมกนีเซียมในร่างกายต่ำกว่าปกติ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวานขึ้นจอตา (Diabetic Retinopathy)
* แมกนีเซียม ช่วยเสริมการทำงานของเอนไซม์ที่ใช้วิตามินบี1 วิตามินบี2 และวิตามินบี6 ดังนั้น หากร่างกายขาดแร่ธาตุชนิดนี้ไป อาจส่งผลให้มีอาการที่เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบีได้ เช่น อาการชัก
* จำเป็นในการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดคือ กลูโคส ให้เป็นพลังงาน
* บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)
* สำคัญเกี่ยวกับการสังเคราะห์ DNA และ RNA ในระหว่างที่เซลล์แบ่งตัว
* บรรเทาและลดอาการไมเกรน การได้รับแมกนีเซียม ขนาด 200-300 มก.ร่วมกับวิตามินบี2 จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนและจะช่วยลดความถี่ของการปวดลงได้